บางแสน ไทยแลนด์ สปีด เฟสติวัล 2012 วันที่ 3 ปลุกความเร้าใจกันตั้งแต่เช้า 08.30 น. ด้วยการลงสนามซ้อมของบรรดาสปอร์ตคาร์ สัญชาติอังกฤษอย่าง Lotus ที่นักแข่งแต่ละคนก็พัฒนาฝีมือขึ้นมา เพื่อเปิดศึกใหญ่บนสนามที่เป็นตำนานแห่งนี้โดยเฉพาะ และเวลาดีที่สุดในการซ้อมของรุ่น Lotus Cup Thailand ก็คือ หมายเลข 28 แจ็ค แลมวาร์ด ทำเวลาซ้อมดีที่สุดไว้ 2:11.742 นาที
ต่อเนื่องกันด้วยคิวซ้อมของรุ่น TCSA ที่ลงสนามกันเกือบจะครบทุกคัน เพราะไม่มีวี่แววของเจ้าบ้านอย่าง ติณฑ์ ศรีตรัย หมายเลข 9 เลยทำให้นักซิ่งจากต่างแดนซัดกันอย่างเมามันส์ ถึงขนาดหลุดแทรคเข้าไปปักกองยาง แล้วก็ชนกำแพงจนถึงขั้นต้องออกจากสนามไปเลยก็มีให้เห็นอย่างไม่ขาดสาย สุดท้ายหมดเวลา รถหมายเลข 91 CHEN jun-san ทำเวลาซ้อมเร็วสุดที่ 1:52.883 นาที
Toyota Bangsaen Endurance
ช่วงเวลาราว 10.00 น. ของวันนี้ คือ จุดเริ่มต้นของความมันส์อีกหนึ่งสไตล์ ในรูปแบบ Endurance ที่ปล่อยให้หวดกันยาวๆ 4 ชม. รวด ของรถแข่งจำนวนกว่า 40 คัน ส่วนกฏกติกาการแข่งขันนั้นยังคงเหมือนปีที่ผ่านๆ มา เช่น นักแข่งแต่ละทีมที่สามารถมีได้เพียง 2-3 คน และกฏความปลอดภัยที่บังคับให้นักขับแต่ละใช้เวลาหวดได้เพียง 45 นาที เท่านั้น
บรรยากาศบริเวณ Pit นั้นเต็มไปด้วยความลุ้นระทึกของทีมแข่ง และนักแข่งที่ประจำการอยู่ในจำนวนรถฝูงใหญ่ ที่รวมเอาทั้งรุ่น Division 1 และ Division 2 เข้าไว้ด้วยกัน โดยตำแหน่งโพล โพสิชั่นของการแข่งขันยกนี้เป็นรถทีมหมายเลข 2 ที่ทำเวลาควอลิฟายด์เอาไว้ที่ 2:02.335 นาที ซึ่งจะครองตำแหน่งจ่าฝูงเอาไว้ได้หรือไม่ เมื่อปล่อย Rolling Start นั้น คือสิ่งที่ต้องลุ้นกันหลังจากธงเขียวโบกสะบัดเป็นสัญญาณเริ่มต้นมันส์ และความอึด

ผ่านไปได้เพียงไม่ถึง 10 นาทีของชั่วโมงแรก รถทีมหมายเลข 72 คือ คันแรกที่วนกลับเข้าพิท ซึ่งไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่ท่าทางนักแข่งของทีมหมายเลข 72 คงต้องรับบทหนัก เพราะ อ่ำ-อัมรินทร์ 1 ใน 3 นักแข่งบาดเจ็บลงแข่งไม่ไหว ส่วนความเคลื่อนหวในการแข่งขันนั้นดูเหมือนรถทีมหมายเลข 55 น่าจะมีปัญหา เพราะเครื่องดับกลางอากาศ แต่ก็ยังแก้ไขจนกลับมาวิ่งต่อได้ ในขณะที่รถทีมหมายเลข 25 นั้นก็ไม่รู้ว่าพลาดหรือตั้งใจ เพราะขวิดไฟล่อนตรง Chicane ไปถึง 2 ครั้ง
และหลังจากที่การแข่งขันเริ่มต้นไปได้ไม่ถึง 20 นาที รถคันแรกที่ต้องจบการแข่งขันลงก็คือรถทีมหมายเลข 27 จาก Division 2 ที่มีปัญหาและไม่สามารถแก้ไขได้ ทางด้านหัวแถวนั้นรถทีมหมายเลข 2 ที่รั้งตำแหน่งจ่าฝูงมาโดยตลอดก็เสียท่าซะแล้ว เพราะรถจากทีมหมายเลข 45 หวดทำเวลาได้เร็วกว่าขึ้นมาเป็น 2:04.320 นาที ทำให้รถทีมหมายเลข 2 ยอมไม่ได้ยัดเข้าไปเต็มสปีดทำเวลาเร็วขึ้นเป็น 2:03.590 นาที กลับขึ้นรั้งตำแหน่งจ่าฝูงบนตารางอีกครั้ง
ช่วงเกือบปลายชั่วโมงแรกเกมส์การแข่งขันเริ่มดุเดือดขึ้น สังเกตได้จากรถแข่งหลายๆ คัน ที่หลุดบ้าง หมุนบ้าง กระแทกกันบ้าง
เกี่ยวกันบ้าง ตามประสาคนวัยแรง แล้วก็มีรถที่ต้องออกจากการแข่งขันเพิ่มเติมตามกันไป คือ ทีมหมายเลข 1, หมายเลข 55 และหมายเลข 33
ส่วนทีมหมายเลข 99 นั้นเสียหลักหัวปักเข้ากำแพงจนหม้อน้ำแตก ต้องลากสังขารเข้าพิทไปซ่อมทันที แต่ท้ายที่สุดทีมช่างก็ยากจะเยียวยา
เลยต้องถอนตัวออกไปอีกหนึ่งคัน
เกี่ยวกันบ้าง ตามประสาคนวัยแรง แล้วก็มีรถที่ต้องออกจากการแข่งขันเพิ่มเติมตามกันไป คือ ทีมหมายเลข 1, หมายเลข 55 และหมายเลข 33
ส่วนทีมหมายเลข 99 นั้นเสียหลักหัวปักเข้ากำแพงจนหม้อน้ำแตก ต้องลากสังขารเข้าพิทไปซ่อมทันที แต่ท้ายที่สุดทีมช่างก็ยากจะเยียวยา
เลยต้องถอนตัวออกไปอีกหนึ่งคัน

2nd Hours … Endurance Race
เข้าสู่ชั่วโมงที่ 2 เซอร์ไพรส์เกิดขึ้นกับรถทีมหมายเลข 1 ที่คิดว่าพัง แต่นักแข่งอาศัยความสามารถ และดวงแบบสุดฤทธิ์ ลงมือซ่อมเองจนสามารถกลับมาเข้าแข่งขันต่อได้ ส่วนรถในสนามลักษณ์เหมือนความล้า และความเหนื่อยเริ่มสะสมมากขึ้น เพราะหลายๆ คันเหมือนแรงตกลง การเข้าพิทเริ่มมีให้เห็นบ่อยขึ้น ทั้งเพื่อเซอร์วิส และเพื่อเปลี่ยนตัวนักขับ พร้อมกับการพยายามรักษาตำแหน่ง และเวลาเอาไว้อย่างสุดชีวิต
ครึ่งทางของชั่วโมงที่ 2 รถจากทีมหมายเลข 59 ทรงไม่ค่อยดี วิ่งมาแผ่วๆ จนมาจอดเสียแถวๆ วงเวียน ซ่อมไป ซ่อมมา ก็พอไหวพยายามไหลๆ มาเข้าพิทจนสำเร็จ ด้านหัวแถวรถทีมหมายเลข 2 ยังคงตั้งหน้า ตั้งตานำแบบทิ้งห่างด้วยจำนวนรอบที่นำคันอื่นราว 1-2 รอบ ส่วนอันดับ 2 ในชั่วโมงแรกคือรถทีมหมายเลข 45 นั้นคาดว่ามีปัญหาบางอย่างทำให้ร่วงลงไปหลายอันดับ จนทีมรถหมายเลข 14 ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2, ทีมรถหมายเลข 38 อยู่ในอันดับ 3 และทีมรถหมายเลข 47 อยู่ในอันดับ 4 แต่ในช่วงเกือบท้ายชั่วโมงที่ 2 รถหมายเลข 14 อันดับที่ 2 เข้าพิทไป
ทำให้อันดับมีการขยับขึ้น รวมถึงหมายเลข 45 ที่พยายามไล่ขึ้นมาเป็นอันดับ 4 ส่วนหมายเลข 14 นั้นออกจากพิทมาในอันดับที่ 5
ทำให้อันดับมีการขยับขึ้น รวมถึงหมายเลข 45 ที่พยายามไล่ขึ้นมาเป็นอันดับ 4 ส่วนหมายเลข 14 นั้นออกจากพิทมาในอันดับที่ 5

3rd Hours … Endurance Race
ชั่วโมงที่ 3 ของการแข่งอึด รถแข่งแต่ละคันเริ่มมาถึงจุดอิ่มตัว การปะทะกันของรถแข่งลดลง และหันมาสนใจกับการรักษาอันดับ และความเร็ว มากขึ้นในส่วนของหัวแถว ส่วนปลายแถวนั้นมีบ้างที่ยังเกาะกลุ่มเป็นฝูงใหญ่ สลับอันดับกันขึ้นลง ตัดกลับมาที่หัวแถวอีกครั้งกลุ่มนำเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงให้เห็น โดยหมายเลข 38 ขยับขึ้นมาเป็นจ่าฝูงบนตารางแทน ส่วนหมายเลข 2 แวะเข้าพิท ทำให้หมายเลข 47 ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ตามมาด้วยหมายเลข 45 อันดับ 3, หมายเลข 2 ตามมาเป็นอันดับ 4 ส่วนรถที่ต้องออกจากการแข่งขันไปอีกรายคือรถหมายเลข 77 ที่หวดซะจนน้ำมันหมดคาแทรค เลยต้องออกจากการแข่งขันไปอีกราย เพราะการเติมน้ำมันรถต้องกระทำที่หน้าพิท โดยทีมเซอร์วิสที่ต้องสวมชุดกันไฟเท่านั้น
ใกล้ 30 นาทีแรกของชั่วโมงที่ 3 รถหมายเลข 14 ที่อยู่ในอันดับ 5 ก็ใช้ความสามารถไล่กวดขึ้นมาอย่างเต็มที่ จนขึ้นมาเป็นอันดับที่ 4 ได้สำเร็จ แถมด้วยการจบการแข่งขันของรถหมายเลข 65 ที่ซัดจนพังคาเท้าไปอีกราย ตามมาด้วยรถหมายเลข 41 ที่อ่อนแรงล้าเกินจะเลี้ยวเลยพุ่งเข้ากองยางเข้าไปเต็มๆ จนออกจากการแข่งขันไปเช่นกัน

ในขณะที่หัวแถวซึ่งครอบครองโดยหมายเลข 38 นั้น ถูกรถหมายเลข 45 และหมายเลข 47 สอยหล่นมาอยู่ในอันดับ 3 แต่โชคไม่ดีที่รถหมายเลข 45 เพิ่งจะรับตำแหน่งจ่าฝูงไปหมาดๆ ก็เกิดพลาดท่าหลุดเข้าแปะกำแพง ขวางอยู่ในแทรคซึ่งอาจจะมีอันตราย ทำให้ธงเหลืองพร้อมป้าย SC ปลิวว่อนทั่วสนาม รถ Safety Car ต้องออกนำขบวนเรียงตามลำดับ โดยมีรถหมายเลข 47 กลายเป็นผู้นำไปในทันที

Last Hours … Endurance Race
รถ Safety Car ออกนำถึง 4 รอบสนามเพื่อเคลียร์สถานการณ์ ในช่วงคาบเกี่ยวระหว่างชั่วโมงที่ 3 และ 4 แล้วมาปล่อยสตาร์ทอีกครั้งในรอบที่ 5 ซึ่งถือเป็นโอกาสสุดท้ายที่รถแข่งแต่ละคันจะร่นระยะ เหมือนกันการออกสตาร์ทครั้งแรก และหลังจากผ่านไปไม่กี่รอบสนาม รถหมายเลข 47 ที่เพิ่งครองตำแหน่งจ่าฝูงก็จำใจต้องเข้าพิท เลยโดนรถหมายเลข 38 สอยเอาตำแหน่งผู้นำไปครอง อีกทั้งจำนวนรอบสนามในชั่วโมงสุดท้ายนี้ก็เดินทางมาเกือบจะถึง 100 รอบแล้วด้วยเช่นกัน
ส่วนอันดับหัวแถวในชั่วโมงสุดท้ายของการแข่ง อันดับ 1 เป็นหมายเลข 38, อันดับ 2 หมายเลข 47, อันดับ 3 หมายเลข 2, อันดับ 4 หมายเลข 9 และอันดับ 5 หมายเลข 54 แต่คู่ที่สูสี และน่าลุ้นที่สุดคืออันดับที่ 1 และ 2 ซึ่งไล่กันมาอย่างดุเดือดด้วยจำนวนรอบที่เท่ากัน แต่น่าจะไล่กับมาได้ยากไม่น้อย เพราะอันดับ 1 ห่างจากอันดับ 2 กว่า 30-40 วินาทีเลยทีเดียว ส่วนรถที่ต้องจบการแข่งขันไปในชั่วโมงนี้อีกคันก็คือ
รถหมายเลข 6
รถหมายเลข 6
10 นาที สุดท้ายของการแข่งขันมีชีวตชีวามากขึ้น เพราะหลายทีมเข้าพิทไปเปลี่ยนนักแข่งสภาพ "สดๆ" ลงมาวิ่ง เพื่อเร่งทำเวลา ทำให้ทั้งเสียงเครื่องยนต์ และเสียงยางร้องกันระงมทั่วสนาม
นาทีสุดท้ายของการแข่งขันผ่านไปครบสมบูรณ์ถ้วนๆ 4 ชั่วโมงเต็ม รถคันแรกที่รับธงตาหมากรุกนั้นเป็นไปตามคาดหมาย คือ หมายเลข 38 ที่ประกอบด้วยนักแข่ง 3 คน คือ Iguchi และ Oshima จับมือกับ ต้น-มานัต กุละปาลานนท์ ทำรอบไปทั้งหมด 106 รอบสนาม ทำเวลาดีสุด 2:04.763 นาที ในรอบที่ 33
ส่วนอันดับ 2 เป็นรถหมายเลข 47 ที่กัดฟันสู้กันเพียง 2 นักแข่ง คือ พฤฒิรัตน์ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ และ ชาริยะ ทำรอบได้ทั้งหมด 106 รอบเท่ากัน มีเวลาดีสุด 2:07.294 นาที ในรอบที่ 84

และอันดับที่ 3 เป็นรถหมายเลข 2 กับนักแข่ง 3 คน คือ Umars, บวริสร์ สวาวสุ และบูม-กันตธีร์ กุศิริ ทำรอบได้ 106 รอบ ทำเวลาดีสุด 2:03.243 นาที ในรอบที่ 99
(ติดตามผลการแข่งขันอย่างเป็นทางการได้ใน www.supercarthailand.com และ www.BANGSAENgrandprix.net)
(ติดตามผลการแข่งขันอย่างเป็นทางการได้ใน www.supercarthailand.com และ www.BANGSAENgrandprix.net)

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น