วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

21/12/55 …Practice & Endurance Race


บางแสน ไทยแลนด์ สปีด เฟสติวัล 2012  วันที่ 3 ปลุกความเร้าใจกันตั้งแต่เช้า 08.30 น. ด้วยการลงสนามซ้อมของบรรดาสปอร์ตคาร์ สัญชาติอังกฤษอย่าง Lotus ที่นักแข่งแต่ละคนก็พัฒนาฝีมือขึ้นมา เพื่อเปิดศึกใหญ่บนสนามที่เป็นตำนานแห่งนี้โดยเฉพาะ และเวลาดีที่สุดในการซ้อมของรุ่น Lotus Cup Thailand  ก็คือ หมายเลข 28 แจ็ค แลมวาร์ด ทำเวลาซ้อมดีที่สุดไว้ 2:11.742 นาที
ต่อเนื่องกันด้วยคิวซ้อมของรุ่น TCSA ที่ลงสนามกันเกือบจะครบทุกคัน เพราะไม่มีวี่แววของเจ้าบ้านอย่าง ติณฑ์ ศรีตรัย หมายเลข 9 เลยทำให้นักซิ่งจากต่างแดนซัดกันอย่างเมามันส์ ถึงขนาดหลุดแทรคเข้าไปปักกองยาง แล้วก็ชนกำแพงจนถึงขั้นต้องออกจากสนามไปเลยก็มีให้เห็นอย่างไม่ขาดสาย สุดท้ายหมดเวลา รถหมายเลข 91 CHEN jun-san ทำเวลาซ้อมเร็วสุดที่ 1:52.883 นาที

Toyota Bangsaen Endurance       

ช่วงเวลาราว 10.00 น. ของวันนี้ คือ จุดเริ่มต้นของความมันส์อีกหนึ่งสไตล์ ในรูปแบบ Endurance ที่ปล่อยให้หวดกันยาวๆ 4 ชม. รวด ของรถแข่งจำนวนกว่า 40 คัน ส่วนกฏกติกาการแข่งขันนั้นยังคงเหมือนปีที่ผ่านๆ มา เช่น นักแข่งแต่ละทีมที่สามารถมีได้เพียง 2-3 คน และกฏความปลอดภัยที่บังคับให้นักขับแต่ละใช้เวลาหวดได้เพียง 45 นาที เท่านั้น
บรรยากาศบริเวณ Pit นั้นเต็มไปด้วยความลุ้นระทึกของทีมแข่ง และนักแข่งที่ประจำการอยู่ในจำนวนรถฝูงใหญ่ ที่รวมเอาทั้งรุ่น Division 1 และ Division 2 เข้าไว้ด้วยกัน โดยตำแหน่งโพล โพสิชั่นของการแข่งขันยกนี้เป็นรถทีมหมายเลข 2 ที่ทำเวลาควอลิฟายด์เอาไว้ที่ 2:02.335 นาที ซึ่งจะครองตำแหน่งจ่าฝูงเอาไว้ได้หรือไม่ เมื่อปล่อย Rolling Start นั้น คือสิ่งที่ต้องลุ้นกันหลังจากธงเขียวโบกสะบัดเป็นสัญญาณเริ่มต้นมันส์ และความอึด
Toyota Bangsaen Endurance
ผ่านไปได้เพียงไม่ถึง 10 นาทีของชั่วโมงแรก รถทีมหมายเลข 72 คือ คันแรกที่วนกลับเข้าพิท ซึ่งไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่ท่าทางนักแข่งของทีมหมายเลข 72 คงต้องรับบทหนัก เพราะ อ่ำ-อัมรินทร์ 1 ใน 3 นักแข่งบาดเจ็บลงแข่งไม่ไหว ส่วนความเคลื่อนหวในการแข่งขันนั้นดูเหมือนรถทีมหมายเลข 55 น่าจะมีปัญหา เพราะเครื่องดับกลางอากาศ แต่ก็ยังแก้ไขจนกลับมาวิ่งต่อได้ ในขณะที่รถทีมหมายเลข 25 นั้นก็ไม่รู้ว่าพลาดหรือตั้งใจ เพราะขวิดไฟล่อนตรง Chicane ไปถึง 2 ครั้ง
และหลังจากที่การแข่งขันเริ่มต้นไปได้ไม่ถึง 20 นาที รถคันแรกที่ต้องจบการแข่งขันลงก็คือรถทีมหมายเลข 27 จาก Division 2 ที่มีปัญหาและไม่สามารถแก้ไขได้ ทางด้านหัวแถวนั้นรถทีมหมายเลข 2 ที่รั้งตำแหน่งจ่าฝูงมาโดยตลอดก็เสียท่าซะแล้ว เพราะรถจากทีมหมายเลข 45 หวดทำเวลาได้เร็วกว่าขึ้นมาเป็น 2:04.320 นาที ทำให้รถทีมหมายเลข 2 ยอมไม่ได้ยัดเข้าไปเต็มสปีดทำเวลาเร็วขึ้นเป็น 2:03.590 นาที กลับขึ้นรั้งตำแหน่งจ่าฝูงบนตารางอีกครั้ง
ช่วงเกือบปลายชั่วโมงแรกเกมส์การแข่งขันเริ่มดุเดือดขึ้น สังเกตได้จากรถแข่งหลายๆ คัน ที่หลุดบ้าง หมุนบ้าง กระแทกกันบ้าง
เกี่ยวกันบ้าง ตามประสาคนวัยแรง แล้วก็มีรถที่ต้องออกจากการแข่งขันเพิ่มเติมตามกันไป คือ ทีมหมายเลข 1, หมายเลข 55 และหมายเลข 33
ส่วนทีมหมายเลข 99 นั้นเสียหลักหัวปักเข้ากำแพงจนหม้อน้ำแตก ต้องลากสังขารเข้าพิทไปซ่อมทันที แต่ท้ายที่สุดทีมช่างก็ยากจะเยียวยา
เลยต้องถอนตัวออกไปอีกหนึ่งคัน
Toyota Bangsaen Endurance

2nd Hours … Endurance Race

เข้าสู่ชั่วโมงที่ 2 เซอร์ไพรส์เกิดขึ้นกับรถทีมหมายเลข 1 ที่คิดว่าพัง แต่นักแข่งอาศัยความสามารถ และดวงแบบสุดฤทธิ์ ลงมือซ่อมเองจนสามารถกลับมาเข้าแข่งขันต่อได้ ส่วนรถในสนามลักษณ์เหมือนความล้า และความเหนื่อยเริ่มสะสมมากขึ้น เพราะหลายๆ คันเหมือนแรงตกลง การเข้าพิทเริ่มมีให้เห็นบ่อยขึ้น ทั้งเพื่อเซอร์วิส และเพื่อเปลี่ยนตัวนักขับ พร้อมกับการพยายามรักษาตำแหน่ง และเวลาเอาไว้อย่างสุดชีวิต
ครึ่งทางของชั่วโมงที่ 2 รถจากทีมหมายเลข 59 ทรงไม่ค่อยดี วิ่งมาแผ่วๆ จนมาจอดเสียแถวๆ วงเวียน ซ่อมไป ซ่อมมา ก็พอไหวพยายามไหลๆ มาเข้าพิทจนสำเร็จ ด้านหัวแถวรถทีมหมายเลข 2 ยังคงตั้งหน้า ตั้งตานำแบบทิ้งห่างด้วยจำนวนรอบที่นำคันอื่นราว 1-2 รอบ ส่วนอันดับ 2 ในชั่วโมงแรกคือรถทีมหมายเลข 45 นั้นคาดว่ามีปัญหาบางอย่างทำให้ร่วงลงไปหลายอันดับ จนทีมรถหมายเลข 14 ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2, ทีมรถหมายเลข 38 อยู่ในอันดับ 3 และทีมรถหมายเลข 47 อยู่ในอันดับ 4 แต่ในช่วงเกือบท้ายชั่วโมงที่ 2 รถหมายเลข 14 อันดับที่ 2 เข้าพิทไป
ทำให้อันดับมีการขยับขึ้น รวมถึงหมายเลข 45 ที่พยายามไล่ขึ้นมาเป็นอันดับ 4 ส่วนหมายเลข 14 นั้นออกจากพิทมาในอันดับที่ 5
2nd Hours … Endurance Race

3rd Hours … Endurance Race

ชั่วโมงที่ 3 ของการแข่งอึด รถแข่งแต่ละคันเริ่มมาถึงจุดอิ่มตัว การปะทะกันของรถแข่งลดลง และหันมาสนใจกับการรักษาอันดับ และความเร็ว มากขึ้นในส่วนของหัวแถว ส่วนปลายแถวนั้นมีบ้างที่ยังเกาะกลุ่มเป็นฝูงใหญ่ สลับอันดับกันขึ้นลง ตัดกลับมาที่หัวแถวอีกครั้งกลุ่มนำเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงให้เห็น โดยหมายเลข 38 ขยับขึ้นมาเป็นจ่าฝูงบนตารางแทน ส่วนหมายเลข 2 แวะเข้าพิท ทำให้หมายเลข 47 ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ตามมาด้วยหมายเลข 45 อันดับ 3, หมายเลข 2 ตามมาเป็นอันดับ 4 ส่วนรถที่ต้องออกจากการแข่งขันไปอีกรายคือรถหมายเลข 77 ที่หวดซะจนน้ำมันหมดคาแทรค เลยต้องออกจากการแข่งขันไปอีกราย เพราะการเติมน้ำมันรถต้องกระทำที่หน้าพิท โดยทีมเซอร์วิสที่ต้องสวมชุดกันไฟเท่านั้น
ใกล้ 30 นาทีแรกของชั่วโมงที่ 3 รถหมายเลข 14 ที่อยู่ในอันดับ 5 ก็ใช้ความสามารถไล่กวดขึ้นมาอย่างเต็มที่ จนขึ้นมาเป็นอันดับที่ 4 ได้สำเร็จ แถมด้วยการจบการแข่งขันของรถหมายเลข 65 ที่ซัดจนพังคาเท้าไปอีกราย ตามมาด้วยรถหมายเลข 41 ที่อ่อนแรงล้าเกินจะเลี้ยวเลยพุ่งเข้ากองยางเข้าไปเต็มๆ จนออกจากการแข่งขันไปเช่นกัน
ในขณะที่หัวแถวซึ่งครอบครองโดยหมายเลข 38 นั้น ถูกรถหมายเลข 45 และหมายเลข 47 สอยหล่นมาอยู่ในอันดับ 3 แต่โชคไม่ดีที่รถหมายเลข 45 เพิ่งจะรับตำแหน่งจ่าฝูงไปหมาดๆ ก็เกิดพลาดท่าหลุดเข้าแปะกำแพง ขวางอยู่ในแทรคซึ่งอาจจะมีอันตราย ทำให้ธงเหลืองพร้อมป้าย SC ปลิวว่อนทั่วสนาม รถ Safety Car ต้องออกนำขบวนเรียงตามลำดับ โดยมีรถหมายเลข 47 กลายเป็นผู้นำไปในทันที

Last Hours … Endurance Race

รถ Safety Car ออกนำถึง 4 รอบสนามเพื่อเคลียร์สถานการณ์ ในช่วงคาบเกี่ยวระหว่างชั่วโมงที่ 3 และ 4 แล้วมาปล่อยสตาร์ทอีกครั้งในรอบที่ 5 ซึ่งถือเป็นโอกาสสุดท้ายที่รถแข่งแต่ละคันจะร่นระยะ เหมือนกันการออกสตาร์ทครั้งแรก และหลังจากผ่านไปไม่กี่รอบสนาม รถหมายเลข 47 ที่เพิ่งครองตำแหน่งจ่าฝูงก็จำใจต้องเข้าพิท เลยโดนรถหมายเลข 38 สอยเอาตำแหน่งผู้นำไปครอง อีกทั้งจำนวนรอบสนามในชั่วโมงสุดท้ายนี้ก็เดินทางมาเกือบจะถึง 100 รอบแล้วด้วยเช่นกัน
ส่วนอันดับหัวแถวในชั่วโมงสุดท้ายของการแข่ง อันดับ 1 เป็นหมายเลข 38, อันดับ 2 หมายเลข 47, อันดับ 3 หมายเลข 2, อันดับ 4 หมายเลข 9 และอันดับ 5 หมายเลข 54 แต่คู่ที่สูสี และน่าลุ้นที่สุดคืออันดับที่ 1 และ 2 ซึ่งไล่กันมาอย่างดุเดือดด้วยจำนวนรอบที่เท่ากัน แต่น่าจะไล่กับมาได้ยากไม่น้อย เพราะอันดับ 1 ห่างจากอันดับ 2 กว่า 30-40 วินาทีเลยทีเดียว ส่วนรถที่ต้องจบการแข่งขันไปในชั่วโมงนี้อีกคันก็คือ
รถหมายเลข 6
10 นาที สุดท้ายของการแข่งขันมีชีวตชีวามากขึ้น เพราะหลายทีมเข้าพิทไปเปลี่ยนนักแข่งสภาพ "สดๆ" ลงมาวิ่ง เพื่อเร่งทำเวลา ทำให้ทั้งเสียงเครื่องยนต์ และเสียงยางร้องกันระงมทั่วสนาม
นาทีสุดท้ายของการแข่งขันผ่านไปครบสมบูรณ์ถ้วนๆ 4 ชั่วโมงเต็ม รถคันแรกที่รับธงตาหมากรุกนั้นเป็นไปตามคาดหมาย คือ หมายเลข 38 ที่ประกอบด้วยนักแข่ง 3 คน คือ Iguchi และ Oshima จับมือกับ ต้น-มานัต กุละปาลานนท์ ทำรอบไปทั้งหมด 106 รอบสนาม ทำเวลาดีสุด 2:04.763 นาที ในรอบที่ 33
ส่วนอันดับ 2 เป็นรถหมายเลข 47 ที่กัดฟันสู้กันเพียง 2 นักแข่ง คือ พฤฒิรัตน์ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ และ ชาริยะ ทำรอบได้ทั้งหมด 106 รอบเท่ากัน มีเวลาดีสุด 2:07.294 นาที ในรอบที่ 84
และอันดับที่ 3 เป็นรถหมายเลข 2 กับนักแข่ง 3 คน คือ Umars, บวริสร์ สวาวสุ และบูม-กันตธีร์ กุศิริ ทำรอบได้ 106 รอบ ทำเวลาดีสุด 2:03.243 นาที ในรอบที่ 99
(ติดตามผลการแข่งขันอย่างเป็นทางการได้ใน www.supercarthailand.com และ www.BANGSAENgrandprix.net)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น